ดีไซน์ภายนอก
ของทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลาง เสริมไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System และไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED fibre-optic เพื่อการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ เส้นสายหลังคาและลายเส้นด้านข้างถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย ที่เน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัยเสริมโครงสร้างตัวรถให้ดูทรงพลังและสง่างามไปพร้อมกันด้านท้ายเพิ่มความแข็งแกร่งดุดันด้วยปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ พร้อมด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling (กันชนหน้า-หลัง), ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว, บันไดข้างสเตนเลสดีไซน์สปอร์ต โดย GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus จะมาพร้อมกับความพิเศษที่เพิ่มขึ้น ด้วยหลังคาซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
มาพร้อมกับระบบส่งกำลังที่รองรับระบบ Dynamic Select
ซึ่งมีโหมดการขับขี่ 5 แบบ คือ Eco ที่ช่วยปรับการขับขี่เข้าสู่ระบบประหยัดน้ำมัน, Individual ที่สามารถบันทึกรูปแบบการขับขี่ที่ผู้ขับขี่กำหนดไว้ได้, Comfort ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน, Sport และ Sport+ เน้นการเพิ่มความเร้าใจให้กับการขับขี่มากยิ่งขึ้นGLC Coupé ทั้ง 2 แบบ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ และเกียร์อัตโนมัติ แบบ 9G-TRONIC ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ 4MATIC Permanent all-wheel drive ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600-1,800 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 222 กม./ชม.