ตวงรัตน์ ลิขิตพฤกษ์ เลือดใหม่ บีเคเค กรุ๊ป ยึดหลัก “จริงใจพูดตรง” ธุรกิจโตทันตาตวงรัตน์ ลิขิตพฤกษ์ หนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่ได้ใช้ความสามารถเข้ามาขับเคลื่อนกิจการของครอบครัว ที่พ่อแม่ได้สร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงให้รุ่งเรืองมากขึ้น โดยทำงานผสมผสานแนวคิดของคนรุ่นเก่าที่มากประสบการณ์ มาปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัยกับคนรุ่นใหม่ “ตั๊บ-ตวงรัตน์” เป็นลูกสาวคนโตในจำนวน 4 คนของ สุภา-เหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท บีเคเค กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนซ์ นิสสัน ฟอร์ด และ มาสด้า ซึ่งปัจจุบันได้เข้ามาช่วยงานที่บ้านในตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท บีเคเค เล่าว่า ได้เห็นพ่อและแม่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก เริ่มต้นด้วยการขายรถยนต์เก่า จนมาขายรถยนต์ป้ายแดง โดยบริษัทบีเคเค ตั้งขึ้นมา 27 ปีแล้ว ตอนเด็ก ตั๊บ เคยคิดว่า น่าจะเรียนวิศวะเครื่องยนต์ แต่เอาเข้าจริงชอบด้านการก่อสร้างตึกอาคารมากกว่า พอเรียนจบไฮสกูลที่อังกฤษ Harrogate Ladies’ College ที่ Yorkshire เลยมาเรียนปริญญาตรี ด้าน Civil Engineering ที่ Cardiff Univerพอจบที่บ้านก็บอกให้มาลองทำงานที่บริษัทดู โดยเข้ามาดูโชว์รูมเบนซ์อย่างเดียว ส่วนรถยนต์ยี่ห้ออื่น คุณอา ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการ เป็นผู้ดูแล ส่วนคุณพ่อ นั่งเป็นประธานบริษัท ดูภาพรวมอีกที ตั๊บ ได้มาเริ่มงานเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เริ่มต้นจากส่วนบริการลูกค้า ทำอยู่ 2 ปีได้เรียนรู้ความต้องการของลูกค้า จึงขยับมาดูด้านการตลาดและการขาย พร้อมทั้งดูงานภาพรวมของโชว์รูมบีเคเค เบนซ์ ที่มีอยู่ 3 มุมเมือง ทั้ง บางนา, วิภาวดีรังสิต 40 และที่ใหม่ กาญจนาภิเษกงานที่ทำ ท้าทายมาก ทุกเดือนต้องแข่งขันในเรื่องตัวเลข ต้องทำให้ได้ถึงเป้า ซึ่งโชคดีที่ตั๊บเริ่มต้นจากแผนกบริการลูกค้า ตั๊บจึงโทร.หาลูกค้าเอง คุยเองตลอดทำให้ได้เรียนรู้และรู้จักลูกค้าของเรา ได้นำมาใช้ในการทำงาน เพราะงานของเราเป็นงานบริการ ต้องดูทั้งเชิงคุณภาพและความพอใจให้กับคนที่ซื้อรถ นอกจากจะได้ด้วยตัวเองแล้ว ป๊า ก็ชอบสอนทางลัด ด้วยการเอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง ตั๊บก็จะฟังนะคะ แต่คนรุ่นใหม่ อย่างรุ่นตั๊บเอง ก็อยากเรียนรู้ด้วยตัวเอง ล้มด้วยด้วยตัวเองบ้าง เลยเอาคำสอนของรุ่นพ่อ มาผสมผสาน ป๊า มักสอนให้คิดอย่างรอบคอบ ทำงานต้องมีแผน A แผน B และแผน C ไม่ใช่ใช้แผนเดียวแล้วจบ ตั๊บก็ได้เอามาใช้ ผนวกกับประสบการณ์ที่มีในการทำงาน ยุคนี้คือ ต้องเร็ว ต้องแตกต่าง คิดเร็วทำช้า ไม่ทันคนอื่น เราเดินช้าเราก็แพ้ ต้องคิดเร็วทำเร็วและแตกต่าง เพราะโลกยุคนีหมุนเร็วมาก” สาวไฟแรง บอกถึงวิธีการทำงานของเธอนอกจากนี้แล้ว ผู้บริหารสาวผู้นี้ ยังยึดหลักการทำงาน “จริงใจ พูดตรง” โดยได้ขยายความว่า “ความจริงใจ และการที่เราพูดกันตรงๆ ทำให้ทั้งพนักงานและลูกค้ามีความพึงพอใจต่อกันเพราะเราให้ใจเค้าและเขาให้ใจเราเรื่อง คน เป็นปัญหามากสุดของการทำงานที่เราไม่สามารถบังคับใครได้เราจึงต้องใช้ใจในการดีลและตั้บมีป๊าเป็นต้นแบบรของการทำงาน เขาทำงานหนัก ละเอียดรอบคอบ ทำจนมีวันนี้ เราเข้ามาต่อยอด ก็อยากทำให้มันโตมากขึ้นกว่าที่ป๊าทำ เพราะเขาส่งให้เราไปเรียนสูงขนาดนี้ เราก็ควรนำความรู้ ความสามารถ มาทำงานให้ได้มากกว่าที่ป๊าทำ”.....นี่จึงเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้สาวเก่งคนนี้ก้าวสู่ความสำเร็จ. ขอบคุณที่มา: https://www.thairath.co.th/content/1246907 |